วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553

การป้องกันอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการ


การป้องกันอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการ

อัคคีภัยเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแล้วย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล ดั่งคำพูด “โจรปล้นสิบครั้งไม่เท่าไฟไหม้เพียงครั้งเดียว” ทั้งยังส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศและทางน้ำอีกด้วย การเกิดอัคคีภัยนั้นหากเกิดกับสถานประกอบกิจการใดก็ตามส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ก่อให้เกิดปัญหาการว่างงาน ซึ่งเป็นปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

อัคคีภัยเกิดขึ้นได้อย่างไร
การเกิดอัคคีภัยขึ้นได้ต้องมีองค์ประกอบหลักครบ 3 ประการด้วยกันคือ เชื้อเพลิง อากาศ และความร้อน เกิดปฏิกิริยาลูกทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้น เปลวไฟจะลุกต่อเนื่องกันไปจนกว่าเชื้อเพลิงจะหมด ไฟก็จะดับไปเอง
-เชื้อเพลิง อาจจะอยู่ในสถานะเป็น ของแข็ง ของเหลว หรือ ก๊าซ เช่น ไม้ แมกนีเซียม แอมโมเนีย สารตัวทำ
ละลาย ก๊าซหุงต้ม เป็นต้น
-อากาศ ซึ่งอาจจะอยู่ในสถานะเป็น ของแข็ง ของเหลว หรือ ก๊าซ เช่น ไม้ แมกนีเซียม แอมโมเนีย สารตัวทำ
ละลาย ก๊าซหุงต้ม เป็นต้น
-ความร้อน บริเวณนั้นมีอุณหภูมิที่เหมาะสมพอที่จะทำให้เชื้อเพลิงนั้นเกิดเปลวไฟขึ้นได้

สาเหตุของการเกิดอัคคีภัย

การเกิดอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการต่างๆมักมีสาเหตุเนื่องมาจากความประมาทขาดความระมัดระวัง ในขณะปฏิบัติงาน จากการวิเคราะห์อุบัติเหตุเพลิงไหม้ในสถานประกอบกิจการต่างๆ พบว่าการเกิดอัคคีภัยมีสาเหต ุและแหล่งกำเนิดแตกต่างกันไปพอสรุปได้ดังนี้


+ อุปกรณ์ไฟฟ้า การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือผิดประเภท ขั้วต่อหลวมการลัดวงจรไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนสูงหรือประกายไฟขึ้นได้
+ การสูบบุหรี่หรือการจุดไฟ ในบริเวณที่มีเชื้อเพลิงไวไฟ การทิ้งก้นบุหรี่/ไม้ขีดไฟที่ติดไฟแล้วลงถังขยะ
+ การเสียดทาน การเสียดสีของส่วนประกอบของเครื่องจักร เครื่องยนต์ จนทำให้เกิดความร้อนสูงหากมีเชื้อเพลิงไวไฟอยู่ใกล้ความร้อนดังกล่าวทำให้เชื้อเพลิงนั้นเกิดการลุกไหม้ได้
+ วัตถุที่มีผิวร้อนจัด เหล็กที่ถูกเผา ท่อไอน้ำ เมื่อเชื้อเพลิงที่มีผิวร้อนจัดอาจเกิดการลุกไหม้
สะเก็ดไฟ ประกายไฟ หรือเปลวไฟ จากการเชื่อมและตัดโลหะ ประกายไฟภายในเครื่องจักรที่ขัดข้องเตาเผาที่ไม่มีสิ่งปกคลุม ประกายไฟ/เปลวไฟเหล่านี้สัมผัสเชื้อเพลิงที่อยู่ใกล้เคียงทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้
+ ไฟฟ้าสถิต เกิดจากการถ่ายเทประจุไฟฟ้าสถิตระหว่างวัตถุทำให้เกิดประกายไฟขึ้น
+ ปฏิกิริยาของสารเคมีบางชนิด เกิดจากกระบวนการทางเคมีของสารเคมีซึ่งไม่สามารถควบคุมได้เมื่อสัมผัสกับน้ำ อากาศ หรือวัตถุอื่น ๆทำให้เกิดการลุกไหม้ได้
+ สภาพบรรยากาศที่มีสิ่งปนเปื้อน ก่อให้เกิดการระบาดได้ เช่น ฝุ่นผง ไอระเหย ก๊าซของสารซึ่งมีความเข้มข้นอยู่ในช่วงเหมาะสม เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิถึงจุดระเบิดก็จะระเบิดลุกไหม้ขึ้นได้

การป้องกันการเกิดอัคคีภัย

หลักในการป้องกันการเกิดอัคคีภัยที่สำคัญประการแรก คือ การแยกเชื้อเพลิง ออกซิเจน หรือความร้อน อย่างใดอย่างหนึ่งออกไป ซึ่งในทางปฏิบัติจะต้องดำเนินการ ณ จุดที่อาจจะเป็นสาเหตุของอัคคีภัยได้

- ระบบไฟฟ้า การเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดจะต้องมีคุณสมบัติเหมาะสมกับพื้นที่ที่ใช้งานเมื่อเป็นที่ที่มีไอระเหยของสารไวไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องเป็นชนิดกันการระเบิดได้ (Explosion proof) บริเวณที่มีไอระเหยของสารที่มีคุณสมบัติกัดกร่อน อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องเป็นชนิดทนการกัดกร่อนได้ และหลังเลิกการใช้เครื่องไฟฟ้าควรปิดสวิตซ์และดึงปลั๊กไฟออกทุกครั้ง

- การบำรุงรักษาเครื่องจักร หมั่นตรวจตราและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ เครื่องจักรต่าง ๆ อย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อมิให้เกิดอัคคีภัยจากการชำรุดหรือความบกพร่องของอุปกรณ์นั้น

- การสำรวจและตรวจสอบ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทั้งในอาคารและนอกอาคาร การแยกจัดเก็บสารเคมีอย่างถูกวิธีตามเอกสารข้อมูลความปลอดภัยเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ (Material Safety Date Sheet) เครื่องจักรมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ ระบบไฟฟ้า ทางหนีไฟ ฯลฯ

- การฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงาน ผู้ปฏิบัติงานทุกๆ คน จะต้องทราบและเข้าใจเกี่ยวกับกฎ ระเบียบ หรือวิธีปฏิบัติที่ปลอดภัย เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง ไม่เป็นต้นเหตุของการเกิดอัคคีภัยและฝึกซ้อมเมื่อเกิดอุบัติภัยขึ้น การฝึกอบรม และฝึกซ้อมหนีไฟ สถานประกอบกิจการต้องจัดฝึกซ้อม ปีละ 1 ครั้ง โดยลูกจ้าง 40% ต้องเข้ารับการฝึกอบรม และฝึกซ้อมหนีไฟ

- การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมพัฒนาและการส่งเสริมพลังงาน การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 (หมวดที่ 8 ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาแวดล้อมในการทำงาน) ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น